ถูกโกง
โดยไม่จำต้องพิจารณาถึงจำนวนผู้เสียหายเป็นสำคัญ และจะเป็นการหลอกลวงบุคคลหลายคนในครั้งเดียวหรือกระทำต่อบุคคลต่างวาระและสถานที่กันก็ได้ และโดยการหลอกลวงนั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้เสียหายแต่ละคนที่ถูกหลอกลวงและหลงเชื่อ เท่านี้ก็เป็นความผิดสำเร็จแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเป็นการกระทำความผิดผ่านระบบออนไลน์ ผู้กระทำความผิำจึงมีความผิดตาม เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) อีกฐานหนึ่งด้วย
สารบัญ
หลักฐานที่ต้องเตรียมไป…
ดังนั้น ท่านควรรวมพยานหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น
1.คำประกาศขายสินค้าของผู้ขาย
2.หลักฐานการจ่ายเงิน
3.หมายเลขบัญชีธนาคารที่ทำการโอนเงินชำระค่าสินค้า
4.ข้อความที่แสดงให้เห็นถึงการติดต่อระหว่างท่านและผู้ขาย
5.รวมถึงพยานหลักฐานของผู้เสียหายรายอื่น ๆ ด้วยก็ได้ (ถ้ามี)
วิธีการดำเนินคดี
เพื่อยืนยันและสนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ท่านต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน(ตำรวจ) ณ สถานีตำรวจในท้องที่ และท่านสามารถนำใบแจ้งความนั้น ไปติดตามหาที่อยู่ของผู้ขายได้
โดยหากเป็นการประกาศขายสินค้าผ่านเว็บบอร์ด ให้ท่านนำใบแจ้งความไปติดต่อดูแลเว็บบอร์ดเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ของผู้ขาย เช่น IP Address และ Internet Service Provider (ISP) เพื่อหาตำแหน่งของผู้ขายได้จาก IP Address หรือท่านสามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัญชีเพื่อขอข้อมูลที่อยู่ได้เช่นกัน
ปัญหา การดำเนินคดีที่ล่าช้าของตำรวจ…
อย่างไรก็ดี หากท่านเห็นว่าเจ้าพนักงานสอบสวน(ตำรวจ) ดำเนินการล่าช้า ท่านสามารถรบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีอาญาได้ด้วยตนเอง โดยท่านจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 10 ปี นับแต่วันกระทำความผิด ตามมาตรา 95 (3) มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ
สรุปได้ว่า…
สรุป ท่านสามารถดำเนินคดีได้ด้วยตนเอง หรือเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป โดยท่านสามารถรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมถึงพยานหลักฐานของผู้เสียหายรายอื่น ๆ เพื่อยืนยันและสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามข้อกล่าวหา และในท่านจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายใน 10 ปี นับแต่วันกระทำความผิด มิฉะนั้นเป็นอันขาดอายุความ หากกำลังมีปัญหา อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา NATtAPATFIRM.COM