ข้อยกเว้นความรับผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัว ได้แก่
สารบัญ
1. กรณีมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
ตามมาตรา 8 ทวิวรรคหนึ่งตอนท้าย ที่ได้บัญญัติว่า “เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัว เมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”
จะเห็นได้ว่าเงื่อนไขนี้กำหนดไว้ 2 ประการ กล่าวคือ กรณี “จำเป็น” ซึ่ง ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายว่าต้องเป็นอย่าง นั้น ต้องทำ ขาดไม่ได้ ดังนั้น จำเป็น จึงหมายถึง กรณีที่ต้องกระทำโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
และอีก กรณีคือ “เร่งด่วน” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ความหมายว่า รวดเร็ว มาก รวดเร็วยิ่ง ดังนั้น เร่งด่วน จึงหมายถึง กรณีที่หากไม่ได้กระทำในเวลานั้นจะก่อให้เกิดผลเสียหาย ขึ้นในเวลานั้นหรือในเวลาอันใกล้จะถึงอย่างแน่นอน
เหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จึงหมายความว่า มีความจำเป็นและเร่งด่วน ที่ไม่อาจจะร้องขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่ปราบปรามและจับกุมอาชญากรหรือผู้ที่ กระทำความผิดได้อย่างทันท่วงที หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงแก่ชีวิตร่างกาย หรือทรัพย์สินของตนหรือบุคคลอื่นได้
**และอาวุธปืนที่จะพกพาได้นั้นต้องมิใช่ปืนเถื่อนหรือปืน ที่ไม่มีหมายเลขทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ หากเป็นปืนเถื่อน ย่อมไม่สามารถพกพาหรือพาไป ในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะได้โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็ตาม
ตัวอย่างเพื่อเพิ่มความเข้าใจ ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 5758/2537
จำเลยนำอาวุธปืนซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้จำเลยมีไว้ในครอบครองติดตัว ไปเพื่อใช้ในการเฝ้านากุ้งของจำเลย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนไปโดยไม่มีเหตุอันสมควร แต่ถือ
ได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ การกระทำของ
จำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ วรรคสอง
ซึ่งการจะเห็นได้ว่าอย่างไรจึงจะถือว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์นั้น จะต้องพิจารณาเป็นกรณี หรือเป็นรายไป ต้องดูพฤติการณ์ประกอบว่ามีความจำเป็นและเร่งด่วน เพียงใด หากสามารถหลีกเลี่ยงด้วยวิธีการอื่นได้ก็จะไม่ถือว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน
2. กรณีที่กฎหมายกำหนดไว้
ตามมาตรา 8 วรรคสาม นั้น ได้บัญญัติเน้นไปที่ตัวบุคคล เป็นเรื่องการพกพาอาวุธปืนติดตัวและเป็นกรณีที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคือข้อยกเว้นกรณีดังนี้
1) เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทหารและตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่หมายถึงเจ้าพนักงานอื่นๆ นอกจากทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน เป็นต้น และ กรณีที่สามารถพาอาวุธปืนไปได้นั้นเฉพาะกรณีอยู่ในระหว่างการปฎิบัติหน้าที่เท่านั้น มิฉะนั้นจะ เป็นความผิด
2) ข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (1) (ข) หรือ (ค) ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เพื่อการป้องกันประเทศหรือรักษาความ สงบเรียบร้อยของประชาชนหรือรักษาทรัพย์สินอันสำคัญของรัฐ
3) ประชาชนผู้ได้รับมอบให้มีและใช้ตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (1) (ง) ซึ่งอยู่ใน ระหว่างการช่วยเหลือราชการและมีเหตุจำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืนในการนั้น
3. กรณีมีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา
เหตุสมควร นั้นหมายถึง การพาอาวุธปืนไปโดยมีเหตุผลจำเป็น หรือมีเหตุผลเพียงพอที่จะพา อาวุธปืนติดตัวไป เช่น ผู้ร้ายเข้าไปปล้นทรัพย์ในบ้านจึงหยิบอาวุธปืนไล่จับตามคนร้ายออกมานอก บ้านไปยังทางสาธารณะ หรือ การพาอาวุธปืนไปเพื่อจุดประสงค์เพื่อนำไปซ่อมแซมหรือเพราะมี ความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปในที่เปลี่ยวและอันตราย เป็นต้น
4. ข้อยกเว้นตามบันทึก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ข้อยกเว้นตาม บันทึกสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 0503(ส)/277663 ลงวันที่ 30 กันยายน เป็นกรณี ที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและสมควรแก่พฤติการณ์ โดยได้มีแนวทาง ดังนี้
1) ถ้าได้นำอาวุธปืนใส่กระเป๋าเก็บไว้ในช่องเก็บของท้ายรถ ซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ ทันทีทันใด
2) เอาอาวุธปืนใส่กระเป๋าใส่กุญแจแล้ววางไว้ในรถซึ่งไม่สามารถหยิบใช้ได้ ทันทีทันใด
3) ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด จำนวนเป็นหมื่นๆนำติดตัวมาแล้วมีอาวุธปืน ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้วใส่ในช่องเก็บของ หน้ารถยนต์เพื่อป้องกันตัวและทรัพย์สิน
4) ไปเก็บเงินจากลูกค้าต่างจังหวัด นำอาวุธปืนติดตัวมาด้วย โดยแยกอาวุธปืนและ เครื่องกระสุนออกจากกัน ใส่กระเป๋าเอกสารไว้ที่พนักเบาะหลังรถยนต์
5) ห่ออาวุธปืน และแหนบบรรจุลูกกระสุน (แม็กกาซีน) แยกออกคนละห่อเก็บไว้ใน กระโปรงรถยนต์ซึ่งใส่กุญแจ
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ใช้ดุลพินิจประกอบการ พิจารณาในการตรวจค้นบุคคลที่พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ
จะเห็นได้ว่ากฎหมายยังคงเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์นำอาวุธปืนที่ตนมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมายและมีข้อยกเว้นความรับผิดตามกฎหมายให้ แต่อย่างไรก็ดี ในทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในปัจจุบันยังคงมีปัญหา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบบุคคลพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ โดยมีเพียงใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนติดตัว ก็มักจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีทุกรายไป ทำให้เป็นที่เดือดร้อนแก่ผู้บริสุทธิ์ที่ ถูกตรวจค้นและจับกุม ทั้งนี้ หาท่านกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับ การพกพาอาวุธปืน กรุณาอย่าลังเล ที่จะเข้ารับคำปรึกษาทางกฎหมายด้านอาวุธปืนจากเรา NATTAPATFIRM.COM