ดาวน์โหลด ฟรี!
สัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร
โดย
ณัฐภัทร เฟิร์ม
f.a.q.
รวมข้อถาม – ตอบ เกี่ยวกับสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
คลิกที่หัวข้อเพื่อเลือกอ่าน
สัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร หรือสัญญาว่าจ้างก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง คือสัญญาซึ่งมีคู่สัญญา 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ว่าจ้าง (เช่น เจ้าของอาคาร บ้าน ผู้พัฒนาโครงการ) ฝ่ายหนึ่ง และผู้รับจ้าง (เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง) อีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่ ผู้ว่าจ้าง ว่าจ้างให้ผู้รับจ้าง ก่อสร้างอาคาร/สิ่งปลูกสร้างต่างๆ (เช่น บ้านพักอาศัย อาคาร สำนักงาน โรงงาน คลังสินค้า ถนน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ) ตามลักษณะ ขอบเขต คุณสมบัติ และมาตรฐานที่ผู้ว่าจ้างกำหนด ซึ่งอาจเป็นการก่อสร้างขึ้นใหม่ หรือดัดแปลง ตกแต่ง หรือรื้อถอนอาคาร/สิ่งปลูกสร้างเดิมก็ได้ โดยที่ผู้ว่าจ้างตกลงจะชำระค่าจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานก่อสร้างนั้น
โดย ผู้ว่าจ้างมักว่าจ้างผู้รับจ้างในการดำเนินการก่อสร้างอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง เนื่องจาก ผู้รับจ้างมักเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ มีบุคคลากร วัสดุ เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมในการก่อสร้างอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง อีกทั้ง ยังช่วยให้ผู้ว่าจ้างมีความคล่องตัวสูงในการบริหารจัดการบุคคลากรที่นำมาใช้ในงาน/โครงการก่อสร้าง ในกรณีที่งานและ/หรือโครงการก่อสร้างนั้นสิ้นสุดลง
เมื่อผู้จัดทำระบุรายละเอียดและข้อความสำคัญในสัญญาครบถ้วนแล้ว และผู้จัดทำควร จัดทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร/สิ่งปลูกสร้างเป็นลายลักษณ์อักษร และให้คู่สัญญาหรือตัวแทนผู้มีอำนาจของคู่สัญญา ลงนามในสัญญาดังกล่าวให้เรียบร้อย โดยอาจจัดทำคู่ฉบับของสัญญาอย่างน้อย 2 ฉบับ เพื่อให้คู่สัญญาแต่ละฝ่ายเก็บไว้ใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานได้ฝ่ายละอย่างน้อย 1 ฉบับ
ทั้งนี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายควรขอเอกสารแสดงตัวตนของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งที่ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องมาเก็บไว้ประกอบสัญญาฉบับที่ตนเองถือไว้ด้วย เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง หนังสือรับรองและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
คู่สัญญาจะต้องนำสัญญาที่ลงนามเรียบร้อยแล้ว ไปชำระอากรแสตมป์ ตามอัตรา ระยะเวลา และเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากสัญญาว่าจ้างก่อสร้างอาคาร/สิ่งปลูกสร้างและคู่ฉบับ ถือเป็นสัญญาจ้างทำของที่กฎหมายกำหนดให้ต้องชำระอากรแสตมป์จึงจะมีผลสมบูรณ์
ปรึกษาทนายความ หากคุณต้องการคำแนะนำส่วนบุคคลหรือความช่วยเหลือที่ตรงกับกรณีของคุณโดยเฉพาะ เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาทนายความที่จะอุทิศเวลาในการทำงานให้กับคุณเป็นเวลา 30 นาที
การปรึกษาดังกล่าวจะเป็นไปในรูปแบบใด? ทนายความจะอุทิศเวลาการทำงานให้กับคุณเป็นเวลา 30 นาที คุณจะสามารถสนทนาแลกเปลี่ยนทางโทรศัพท์กับทนายความได้เป็นเวลา 30 นาที คุณถาม ทนายความตอบ
ทนายความจะติดต่อฉันเมื่อไหร่และทางใด? ทนายความจะโทรศัพท์ติดต่อคุณภายใน 24 ชม. วันทำการหลังจากที่ได้รับการสั่งซื้อจากคุณ
ทำไมต้อง 30 นาที แล้วถ้าหากฉันต้องการเวลามากกว่านั้นล่ะ? จากประสบการณ์ของเราแล้ว ระยะเวลา 30 นาทีนั้นเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนัดพบครั้งแรกกับทนายความ หากน้อยกว่านั้นทนายความอาจจะมีเวลาไม่พอที่จะตอบคำถามของคุณทั้งหมด หากมากกว่านั้นกรณีของคุณอาจจำเป็นต้องมีการทำงานในเชิงลึกมากกว่า หลังจากหมดเวลา 30 นาทีไปแล้วคุณสามารถซักถามกับทนายความต่ออีกได้
ADS.
โฆษณาของผู้สนับสนุนเรา
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของเรา 062-4436667